วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

การเลือกปลูกต้มไม้

การปลูกต้นไม้ในบ้าน : หน้าที่ของต้นไม้และประโยชน์ใช้สอย


ที่แรกว่าจะเขียนเรื่องไม้ประดับต่อจากเรื่องไม้ใหญ่ พอดีมีคนถามเรื่องการปลูกต้นไม้หลังบ้าน ว่าจะปลูกต้นอะไรดี เพื่อบังสายตา และให้ร่มเงา ซึ่งต้นไม้ที่จะทำหน้าที่ ทั้ง 2 อย่างนี้คงจะหายาก ผมเลยต้องเขียนเรื่องนี้ก่อน คือจะเป็นเรื่องของ function ของต้นไม้ ว่าต้นไม้แต่ละอย่างนั้นนอกจากความสวยงามแล้ว มันเป็น function ไปด้วยในตัว ที่มีประโยชน์ใช้สอยเป็นหน้าที่ของมันด้วย ถ้าเราเข้าใจเรื่องนี้แล้ว การเลือกต้นไม้ที่จะปลูก ก็จะง่ายขึ้นไปอีกครับ


ในป่านั้น ต้นไม้มันจะขึ้นเองตามธรรมชาติของมัน ตามสภาพภูมิอากาศ แต่มันก็มีหน้าที่ของมันเช่นกัน มันถึงอยู่ร่วมกันได้ ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแก่ต้นไม้เล็กๆ ต้นไม้เล็กก็คลุมดินให้ความชื้นแก่ต้นไม้ใหญ่ เป็นต้น และสถานที่ใดที่ไม่ถูกกับสภาพของต้นไม้นั้นๆมันก็จะอยู่ไม่ได้ หรือถ้ามันเก่งหน่อย มันก็จะปรับสภาพของมันเองเพื่อความอยู่รอด ส่วนในบ้านเรา การเลือกต้นไม้ที่จะปลูก นอกจากจะเลือกที่มันให้ประโยชน์กับเราแล้ว ต้องดูด้วยนะครับ ว่าต้นไม้มันเหมาะกับที่ตรงนั้นไหม มันจะได้อยู่กับเราไปนานๆ การเลือกต้นไม้นั้นเราต้องดู ขนาด รูปร่าง สีสัน ที่เข้ากันได้กับบ้านของเรา และที่สำคัญ ต้นไม้มันเจริญเติบโตของมันไปเรื่อยๆ ไม่เหมือนเราที่โตแล้วก็แก่ เราจึงต้องรู้เรื่องของมันมากหน่อย เพื่อคาดเดาอนาคตได้ว่า มันจะใหญ่โตแค่ไหน ในระยะเวลา 5 ปี 10 ปีขึ้นไป  โตแล้วจะเบียดกันเองหรือไม่ โตแล้วจะมาเบียดบ้านเราพังหรือเปล่า ถ้าที่กว้างๆเขาจะให้เว้นระยะตามความสูงของต้นไม้เลยทีเดียว คงได้ยินข่าวบ่อยๆนะครับเวลามีลมพายุพัดต้นไม้ล้มทับบ้าน เรื่องต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญทั้งสิ้น




เรามาดูเรื่องหน้าที่หรือ Function ของต้นไม้กัน

1. ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา (Shelter) แน่นอนว่าต้องเป็นต้นไม้ใหญ่ หรือไม้ยืนต้นนั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่ทุกชนิด ไม้ที่ให้ร่มเงาที่ดีที่สุด ต้องมีความสูงพอสมควร มีพุ่มใบทึบ แผ่กว้าง จึงจะให้ร่มเงาได้ดี เช่นประดู่ นนทรี หูกวาง สาเก ไม้ใหญ่บางประเภทใบเล็ก พุ่มโปร่ง ก็ไม่ค่อยได้ร่มเงา เช่นสนทะเล หลิว  หรือแม้ทรงสูง พุ่มทึบ แต่ทรงผอมชะลูดเช่นโศกอินเดีย ก็ให้ร่มเงาได้เป็นบางเวลา เช่นต้องปลูกชิดเป็นแผง ไว้บังแดดตอนบ่าย ต้นไม้ให้ร่มเงาจะปลูกเดี่ยวๆ เป็นกลุ่ม หรือเป็นแถวแนวก็ได้ จะให้ประโยชน์และความสวยงามแตกต่างกันไป






































ต้มไม้แสนสวย


ปัจจุบันการนำไม้ดอกไม้ประดับมาประดับตกแต่งบ้านเรือน สำนักงานและสถานที่ต่าง ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกขณะ เนื่องจากโลกมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นด้านวัตถุและเทคโนโลยี ทำให้ชีวิตมนุษย์ห่างไกลจากธรรมชาติมากขึ้น พื้นที่สีเขียวถูกเปลี่ยนเป็นบ้านพักอาศัย สภาพแวดล้อมที่ถูกปนเปื้อนด้วยสารพิษ มนุษย์จึงพยายามนำธรรมชาติเข้ามาไว้ใกล้ตัวเพื่อทดแทนธรรมชาติที่ขาดหายไป การจัดสวน และการนำไม้ดอกไม้ประดับมาตกแต่งบ้านพักอาศัยและสถานที่ต่าง ๆ จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน แต่ปัญหาที่พบเสมอคือ จะมีวิธีการดูแลรักษาสวน และไม้ดอกไม้ประดับเหล่านั้นอย่างไรให้มีสภาพสวยงามยาวนาน วิธีดูแลรักษาสวนสวยด้วยตัวเอง จึงเป็นแนวทางที่จะช่วยให้ผู้รักการปลูกต้นไม้แต่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพันธุ์ไม้และการดูแลรักษาได้ทราบวิธีการอย่างง่าย ๆ ในการปลูกเลี้ยงและดูแลรักษาต้นไม้ให้เจริญงอกงาม พันธุ์ไม้ในสวน ถ้าแยกพันธุ์ไม้ในสวนออกตามหน้าที่หรือลักษณะก็แบ่งได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. ไม้คลุมดิน กิ่งก้านเลื้อยทอดลงปรกดิน จึงทำให้ค่อนข้างเตี้ย ต้องตัดแต่งบ่อย ๆ เพราะโตเร็ว ปล่อยไว้มักรุงรัง และไม่สวย เพราะใบจะเล็กลง ไม่คอยแตกใบใหม่ และ ไม่ผลิดอก ไม้พวกนี้ใช้ปลูกคลุมโคนไม้ใหญ่ ขอบสระ แทรกก้อนหิน ริมขอบถนน สนาม รั้ว ปลูกเป็นแปลง ไม้คลุมดินมีทั้งไม้ดอกและไม้ใบ เช่น คุณนายตื้นสาย แพรเซี่ยงไฮ้ ฟ้าประดิษฐ์ ผกากรอง บัวฝรั่ง หัวใจม่วง ซุ้มกระต่าย เศรษฐีเรือนใน หนวดปลาดุก การะเกด เหิน พลูทอง พลูด่าง เงินใหลมา ไฟเรีย ปีกแมลงสาบ เป็นต้น

2. ไม้พุ่ม มีลำต้นแข็ง มักมีลำต้นย่อม ๆ อยู่ด้วยกันหลาย ๆ ลำ แผ่กิ่งก้าน และใบค่อนข้างแน่น มีทั้งขนาดเล็ก และขนาดกลาง โดยปกติต่ำกว่า 3-4 เมตร ตัดแต่งทรงพุ่มได้ ถ้าปลูกในสวนขนาดเล็ก อาจตัดแต่งให้มีลำต้นเดียว เพื่อให้เหมือนไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แต่ถ้าปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นทั่วไปในสวนขนาดใหญ่ ก็ใช้ปลูกเป็นกลุ่ม ๆ ในหมู่ไม้พุ่มด้วยกัน ปลูกริมรั่ว หรือทำรั่ว ปลูกเป็นแนวหรือแปลง ตัดแต่งให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ ก็ได้ ตัวอย่างไม้พุ่ม ได้แก่ เข็มต่าง ๆ อังกาบ ปัตตาเวีย มะขามเทศด่าง กาหลง โยทะกา หางนกยูงไทย ชุมเทศเห็ด หลิวไต้หวัน ชบาต่าง ๆ พวงทองต้น แก้ว โมก หูปลาช่อน เล็บครุฑ โกสน ราชาวดี พุดฝรั่ง ยี่โถ พุตซ้อน เป็นต้น

3. ไม้ยืนต้น มีลำต้นแข็ง เป็นลำต้นเดี่ยว ๆ ขึ้นไปจนถึงยอด สูงใหญ่ และอายุยืน มีทั้งไม่ยืนต้นขนาดเล็ก เช่น แก้ว โมก แสงจันทร์ ยี่เข่ง เชอร์รี่ มะนาวเทศ หนามแดง คอร์เดีย ไม้ยืนต้นขนาดกลาง เช่น พิกุล ลั่นทม กุ่มบก มะกล่ำตาช้าง ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ อินทนิลบก และไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เช่น ขนุน แคแสด ชมพูพันธุ์ทิพย์ ประดู่ สาเก ปีป (สูง 10-25 เมตร เป็นทั้งไม้ขนาดกลางถึงไม้ขนาดใหญ่) ไทร เสลา ตะแบกนา ไม้ยืนต้นใช้ปลูกเป็นร่มเงา ปลูกเป็นจุดเด่นหรือไม้ประธานในสวน มีทั้งไม้ดอก และไม้ผล บางชนิดไม่ควรปลูกใกล้ตัวบ้านหรือกำแพงมากนัก เพราะระบบรากแข็งแรง โดเร็ว อาจชอนเข้าไปยังฐานรากหรือตัวบ้าน และกำแพงจนร้าว เช่น ไทร หางนกยูงฝรั่ง หูกวาง บางชนิดมีกิ่งเปราะหักง่าย และอันตราย โดยเฉพาะเวลามีพายุเช่น ชมพูพันธุ์ทิพย์ ประดู่ ดังนั้น การปลูกต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ต้องคำนึงถึงขนาดของมันเมื่อโตขึ้นในอนาคตด้วย

4. ไม้เลื้อย คือไม้ที่มีกิ่งก้านเลื้อยรัดพันขึ้นสู่ที่สูง บางพันธุ์เป็นไม้เถาเนื้ออ่อน เช่น อัญชัน พวงชมพู บางพันธุ์เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง เช่น สายน้ำผึ้ง ชมนาด ชอบแสงจัด ใช้ปลูกขึ้นพันรั่ว กำแพง ซุ้มประตู หลังคาศาลา แผงบังตา นอกจากจะสวยงาม ยังให้ความเป็นส่วนตัว ไม้เลื้อยมีทั้งดอกหอมและไร้กลิ่น ใบเล็กละเอียดจนถึงใบใหญ่ เลือกใช้ตามความเหมาะสม

5. ไม้น้ำ เป็นพืชที่ปลูกในน้ำ อ่าง หรือสระ เนื้อที่น้อยปลูกใส่อ่างหรือภาชนะ ตั้งประดับในสวนหรือมุมบ้านได้ ชอบแสงจัด มิฉะนั้นจะเน่า หรือ ไม่ออกดอก ไม้น้ำมีทั้งชนิดดอกและใบ บางพันธุ์มีใบปริ่มน้ำ มีก้านใบชูสูงพ้นน้ำ แต่บางชนิดอยู่ใต้น้ำ เช่น พวกสาหร่ายต่าง ๆ ไม้น้ำที่เรารู้จักกันดี ได้แก่ บัวหลากพันธุ์ กระจับญี่ปุ่น บัวบา ฝิ่นน้ำ ผักตบไทย ผักตบชวา อเมซอน คล้าน้ำ ลานไพลิน กก แว่นแก้ว จอก เป็นต้น

6. ไม้ริมน้ำ ขึ้นในที่ค่อนข้างชื้นแฉะได้ดี เหมาะที่จะปลูกประดับชายน้ำ ขอบสระ ชอบแสง ตัวอย่าง เช่น จิกน้ำ พลับพลึงต่าง ๆ กก พุทธรักษา เฮลิโคเนีย มหาหงส์ เตย หลิวเลื้อย กระดุมทองเลื้อย เป็นต้น

7. ไม้ในร่ม ปลูกได้ในที่มีแสงอ่อนหรือแสงรำไร โดยมากมักเป็นไม้ใบ มีตั้งแต่พวกไม้คลุมดินไปจนถึงไม้พุ่ม ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เช่น หนวดปลาดุก คล้า เฟิน เขียวพันปี เขียวหมื่นปี วาสนา สาวน้อยประแป้ง พลู หน้าวัวใบ ฟิโลเดนดรอน สังกรณี พุดกุหลาบ มุจลินท์ โมก จั๋ง ไทร หมากผู้หมากเมีย สับประรดสี หนวดปลาหมึก เป็ปเปอร์โรเมีย ไผ่ฟิลิปปินส์ หางกระรอก เป็นต้น

8. ไม้รูปทรง มีทรงสวยตามธรรมชาติโดยไม่ต้องตัดแต่งจัดให้เป็นไม้ประธาน ไม้เด่นในสวนได้ หรือจัดไว้ในสวนที่ไม่ต้องการการดูแลมาก โดยมากเป็นพวกสน ปรง ปาล์ม เป็นต้น พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่กล่าวมามีหลากหลายชนิด และการเรียนรู้ว่าแต่ละชนิดชอบแสง น้ำ ดินปลูกอย่างไร จะได้จัดกลุ่มที่ชอบเหมือนกันอยู่ใกล้ ๆ กันในสวน ไม่ใช่นำไม้ร่มมาอยู่รวมกับไม้แดด หรือไม้ชอบชื้นริมน้ำมาปลูกอยู่กับไม้ที่ไม่ชอบน้ำขัง ก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง